วันอังคารที่ 29 มกราคม พ.ศ. 2562

ประชุมใหญ่สมาคมผู้บริหารการศึกษา อ.โชคชัย สามัญประจำปี 2562

ประชุมใหญ่สมาคมผู้บริหารการศึกษา อ.โชคชัย 
สามัญประจำปี 2562

















ขั้นตอนการจดทะเบียนจัดสมาคม

สาระสำคัญของการจัดตั้งสมาคม

  • เป็นการรวมตัวกันของกลุ่มบุคคล 10 คนขึ้นไปสมาชิกไม่น้อยกว่า 3 คน ยื่นคำขอจัดตั้งเพื่อการกระทำใดๆเป็นการต่อเนื่องร่วมกัน (เน้นกลุ่มคนเป็นสำคัญไม่ต้องมีกองทุน)
  • การบริหารงานสมาคมจะดำเนินการ 2 ลักษณะคือ
    1. การบริหารโดยคณะกรรมการ
    2. การบริหารภายใต้การกำกับดูแลของที่ประชุมใหญ่
  • วัตถุประสงค์การบริหารงานเพื่อดูแลผลประโยชน์ของสมาชิกเป็นหลัก
  • ราย ได้ของสามคมมาจากค่าลงทะเบียน ค่าบำรุงของสมาชิก การจัดกิจกรรม หารายได้ของสมาคม ส่วนรายจ่ายสามารถใช้เงินได้ในทุกกรณี ทั้งนี้ให้เป็นไปตามวัตถุประสงค์และมติที่ประชุม
  • การแก้ไขเพิ่มเติมข้อบังคับของสมาคม แก้ไขโดยมติที่ประชุมใหญ่และต้องนำไปจดทะเบียนภายใน 14 วันนับตั้งแต่วันที่ได้ลงมติ
  • นายทะเบียน คือ กรุงเทพมหานคร-อธิบดีกรมการปกครอง ,จังหวัดอื่น-ผู้ว่าราชการจังหวัด
  • นายทะเบียนมีอำนาจตรวจตราควบคุมดูแลการดำเนินกิจการและมีอำนาจในการสั่งถอนชื่อสมาคมได้
  • ข้อมูลปัจจุบันมี 12,621 สมาคม แยกเป็นกรุงเทพมหานคร 4,785 สมาคม,ต่างจังหวัด 7,836 สมาคม

การจดทะเบียนจัดตั้งสมาคม

ขั้นตอนการดำเนินการและการตรวจสอบเอกสารมีดังนี้
  1. รับคำขอตามแบบ ส.ค.1 ณ สำนักงานเขต หรือที่ว่าการอำเภอ

    ขั้นตอนการดำเนินการ
    • รับคำขอตามแบบ ส.ค.1 ณ สำนักงานเขต หรือที่ว่าการอำเภอ
    การตรวจสอบเอกสาร
    • ลงเลขที่รับคำขอ และลงชื่อเจ้าหน้าที่ผู้รับคำขอที่มุมขวาบนของแบบ ส.ค.1
  2. ตรวจเอกสารประกอบคำขอ ส.ค.1

    ขั้นตอนการดำเนินการ
    • ตรวจเอกสารประกอบคำขอ ส.ค.1
    การตรวจสอบเอกสาร
    มีเอกสารสำคัญที่ต้องตรวจสอบรวบรวมดังนี้
    • ข้อบังคับสมาคมมีสาระสำคัญ 8 รายการ ตาม (มาตรา 79) และต้องไม่มีข้อความที่ขัดกับประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์หรือไม่ถ้ามีต้อง ให้ผู้ยื่นคำขอแก้ไขให้สอดคล้องกับกฎหมายด้วย
    • รายชื่อ ที่อยู่ และอาชีพของผู้จะเป็นสมาชิกไม่น้อยกว่า 10 คนและมีกรรมการของสมาคม (มาตรา 81)
    • รายงานการประชุมก่อตั้งสมาคม
    • แผนผังที่ตั้งสังเขปของสมาคม ทั้งสำนักงานใหญ่และสำนักงานสาขา (ถ้ามี)
    • หนังสืออนุญาตจากเจ้าของหรือผู้ครอบครองให้ใช้เป็นสถานที่ตั้งสำนักงานใหญ่/สาขา
    • สำเนาบัตรประจำตัวประชาชน หรือบัตรอื่นที่หน่วยราชการออกให้และสำเนาทะเบียนบ้านของผู้จะเป็นสมาชิก
    • สำเนาใบอนุญาตจัดตั้งสมาคมตามกฎหมายว่าด้วยวัฒนธรรมแห่งชาติในกรณีที่สมาคมมีวัตถุประสงค์เกี่ยวกับงานของสภาวัฒนธรรมแห่งชาติ
    • บันทึก คำให้การตรวจสอบฐานะและความประพฤติของผู้ที่จะเป็นคณะกรรมการของสมาคม หรือหนังสือรับรองกรณีที่ไม่ต้องสอบปากคำพร้อมสำเนาบัตรฯ ที่แสดงว่าเป็นบุคคลน่าเชื่อถือ
    • กรณี เป็นบุคคลต่างด้าว ต้องส่งข้อมูลบุคคลไปตรวจสอบประวัติฐานะและความประพฤติ ณ สำนักงานข่าวกรองแห่งชาติ และสถานทูตของประเทศที่บุคคลนั้นถือสัญชาติอยู่
    • หนังสืออนุญาตการกีฬาแห่งประเทศไทยกรณีเป็นสมาคมที่มีวัตถุประสงค์หลักเกี่ยวกับการกีฬาหรือส่งเสริมการกีฬา
  3. ความเห็นเจ้าหน้าที่

    ขั้นตอนการดำเนินการ
    • ความเห็นเจ้าหน้าที่
    การตรวจสอบเอกสาร
    • ควรเป็นผู้อำนวยการเขต/นายอำเภอหรือผู้รักษาราชการแทนหรือปฏิบัติราชการแทน เพื่อจะได้กลั่นกรองความถูกต้องก่อนเสมอ นายทะเบียนสมาคม พร้อมลงวันที่ เดือน ปี ที่ลงนามด้วย
  4. การส่งคำขอและเอกสารประกอบคำให้นายทะเบียนสมาคม กทม. หรือนายทะเบียนสมาคมจังหวัด

    ขั้นตอนการดำเนินการ
    • การส่งคำขอและเอกสารประกอบคำให้นายทะเบียนสมาคม กทม. หรือนายทะเบียนสมาคมจังหวัด
    การตรวจสอบเอกสาร
    • เมื่อสำนักงานเขต หรืออำเภอได้พิจารณาเอกสารและคำขอแล้วเห็นว่าครบถ้วนและถูกต้อง ให้เสนอเรื่องพร้อมความเห็นต่อนายทะเบียนเพื่อตรวจสอบความถูกต้องและพิจารณา จดทะเบียน
  5. นายทะเบียนสมาคมพิจารณาสมาคมตามกฎหมายอื่นๆ

    ขั้นตอนการดำเนินการ
    • นายทะเบียนสมาคมพิจารณาสมาคมตามกฎหมายอื่นๆ
    การตรวจสอบเอกสาร
    • ถ้ารับจดทะเบียนแล้ว ให้ออกใบสำคัญแสดงการจดทะเบียนจัดตั้งสมาคม (ส.ค.4) และส่งประกาศรับจดทะเบียนสมาคมไปยังสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีเพื่อประกาศใน ราชกิจจานุเบกษา แล้วส่งเรื่องคืนสำนักงานเขต หรืออำเภอเพื่อดำเนินการแจ้งผู้ขอจดทะเบียนทราบ และมารับมอบใบสำคัญพร้อมชำระค่าธรรมเนียมตามกฎกระทรวง
    • สมาคมการค้า ต้องจดทะเบียนกับกรมพัฒนาธุรกิจการค้ากระทรวงพาณิชย์ หรือสำนักงานพัฒนาธุรกิจการค้าจังหวัด
    • สมาคม ฌาปนกิจสงเคราะห์ ต้องจดทะเบียนกับสำนักงานกิจการสตรีและครอบครัว กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ หรือสำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัด
    • สมาคมนายจ้าง ต้องจดทะเบียนกับกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน กระทรวงแรงงาน หรือสำนักงานสวัสดิการและคุ้มครองแรงงานจังหวัด
ที่มา ; https://www.quickaccounting.co.th

การจัดตั้งสมาคมและมูลนิธิการจัดตั้งสมาคม และมูลนิธิจะต้องปฏิบัติตามกฎหมาย และระเบียบของทางราชการ

 สมาคมต้องมีข้อบังคับ และมูลนิธิจะต้องมีตราสาร โดยมีข้อความที่กำหนด เช่น จะต้องมีชื่อ วัตถุประสงค์ และสำนักงาน ของสมาคม และมูลนิธิ มูลนิธิจะต้องมีทรัพย์สินเป็นกองทุน เริ่มแรก มีมูลค่าไม่ต่ำกว่า ๒๐๐,๐๐๐ บาท โดย มีเงินสดไม่น้อยกว่า ๑๐๐,๐๐๐ บาท
แผนกสังคมสงเคราะห์ โรงพยาบาลหัวเฉียว มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง
แผนกสังคมสงเคราะห์ โรงพยาบาลหัวเฉียว มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง
ในการจัดตั้งสมาคมและมูลนิธิ จะต้องขออนุญาตจัดตั้งต่อทางราชการ ในกรุงเทพมหานคร ยื่นต่อสำนักงานคณะกรรมการวัฒนธรรมแห่งชาติ เมื่อได้รับอนุญาตแล้ว สมาคม ต้องยื่นคำร้องขอจดทะเบียนสมาคมเป็นนิติบุคคล ต่อกรมตำรวจ และจดทะเบียนมูลนิธิเป็นนิติบุคคล ต่อกรุงเทพมหานคร ในต่างจังหวัด ยื่นคำร้องขออนุญาตจัดตั้งและจดทะเบียน เป็นนิติบุคคลต่อ ผู้ว่าราชการจังหวัด

ลักษณะของสมาคมและมูลนิธิ 

๑. เป็นองค์การเอกชน สมาคมและมูลนิธิ ถือเป็นองค์การเอกชน ไม่ใช่องค์การรัฐบาล เพราะจัดตั้งขึ้น และดำเนินงาน โดยเอกชน หรือประชาชน

๒. มีฐานะเป็นนิติบุคคล สมาคมและมูลนิธิที่จัดตั้งจะต้องจดทะเบียนต่อทางราชการ เมื่อได้รับอนุญาตจากทางราชการแล้ว จะมีฐานะเป็นนิติบุคคล

๓. ไม่เป็นการหาผลกำไร วัตถุประสงค์ของสมาคม และมูลนิธิจะต้องไม่เป็นการหาผลกำไร สมาคม และมูลนิธิส่วนมากจะมีวัตถุประสงค์ เพื่อการกุศล และสาธารณประโยชน์

๔. มีข้อบังคับหรือตราสาร สมาคมจะมีข้อบังคับ และมูลนิธิจะมีตราสาร ซึ่งจดทะเบียนไว้กับทางราชการ การดำเนินงานของสมาคม และมูลนิธิจะต้องเป็นไปตามข้อบังคับ และตราสารที่กำหนดไว้

๕. มีคณะกรรมการดำเนินงาน สมาคมและมูลนิธิจะมีคณะกรรมการตามจำนวนที่กำหนดไว้ในข้อบังคับ หรือตราสาร รับผิดชอบในการดำเนินงาน โดยมีนายกสมาคม หรือประธานมูลนิธิ เป็นประธานคณะกรรมการ และเป็นผู้แทนของสมาคม และมูลนิธิ ในการติดต่อกับบุคคลภายนอก และในการทำนิติกรรมใดๆ ของสมาคม และมูลนิธิ

http://kanchanapisek.or.th/kp6/sub/book/book.php?book=12&chap=3&page=t12-3-infodetail08.html